การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุจำนวน 50,294 คน
การบริโภคแชมเปญหรือไวน์ขาวในปริมาณมากอาจลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน / ภาพตัดปะ My รูปภาพ depositphotos.com
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ขาวและแชมเปญ อาจเป็นวิธีที่น่าประหลาดใจในการลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน นี่เป็นหลักฐานจากการศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Canadian Journal of Cardiology รายงาน The Independent
นักวิทยาศาสตร์พบว่าการบริโภคแชมเปญหรือไวน์ขาวในปริมาณมากเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการป้องกันภาวะหัวใจหยุดเต้น ขั้นตอนแบบดั้งเดิมอื่นๆ ได้แก่ การกินผลไม้มากขึ้น รักษาอารมณ์เชิงบวก รักษาน้ำหนักให้แข็งแรง และควบคุมความดันโลหิต
นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่าผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงกว่ามีแนวโน้มน้อยที่จะประสบภาวะหัวใจหยุดเต้น ในขณะที่การนอนหลับไม่เพียงพอและขาดการออกกำลังกายอาจเป็นอันตรายได้
โดยรวมแล้ว การศึกษาระบุปัจจัยเสี่ยง 56 ประการที่เกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน และพบว่าสามารถหลีกเลี่ยงกรณีดังกล่าวได้มากถึง 63%
“ตามที่คาดไว้ รูปแบบการดำเนินชีวิตถือเป็นภาระที่ใหญ่ที่สุด การรณรงค์ข้อมูลสาธารณะเพื่อส่งเสริมการแทรกแซงรูปแบบการดำเนินชีวิตจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม” นักวิจัยตั้งข้อสังเกต
การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุจำนวน 50,294 คนที่รวมอยู่ใน UK Biodata Bank ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน 3,147 รายในช่วงระยะเวลาติดตามผลปกติที่ 13.8 ปีอ่านเพิ่มเติม:
“การศึกษาพบความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างปัจจัยที่ปรับเปลี่ยนได้ต่างๆ กับภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน โดยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมีประสิทธิผลมากที่สุดในการป้องกันผู้ป่วย” ดร. ฮุยหวน หลัว หัวหน้านักวิจัยและผู้เขียนคนแรกจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ กล่าว
ไวน์ดีต่อสุขภาพหรือไม่ – รู้อะไรบ้าง?
จำได้ว่ามีรายงานก่อนหน้านี้ว่าในการศึกษาหนึ่งในปี 1997 นักวิจัยสรุปว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยวันละหนึ่งเครื่องมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 นักวิจัยรายงานข่าวที่ร้ายแรงมากขึ้นว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพียงแต่ไม่มีประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้น แต่ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาหัวใจอีกด้วย
การศึกษาอื่นที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Medicine พบว่าการดื่มไวน์อาจมีผลทั้งด้านลบและด้านบวกต่อความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
